
บริษัทนำเที่ยวกังขา โปรแกรมทัวร์ “ชิม ชอป ฉีด” ช่วงฤดูใบไม้ผลิสหรัฐฯ หวั่นเจอคนเที่ยวแออัดเสี่ยงติดเชื้อ Covid-19
เจ้าของบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง แสดงความกังขาโปรแกรม “ชิม ชอป ฉีด” รับวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ระบุ 3-4 วันแรกต้องเสี่ยงติดเชื้ออยู่หลายวันก่อนจะได้รับวัคซีน และหลังได้รับแล้วยังไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่ช่วงนี้เริ่มฤดูใบไม้ผลิ คนออกจากบ้านกันเยอะ ถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกันจะเที่ยวสนุกไหม แนะฉีดวัคซีนกันก่อนค่อยไปเที่ยวเมืองนอกดีกว่า
(3 พ.ค.) จากกรณีที่ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์โปรแกรมการเดินทางของบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง จัดโปรแกรมนำเที่ยวโดยใช้ชื่อว่า “USA ชิม ชอป ฉีด” ระยะเวลา 10 วัน 7 คืน พร้อมกับฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยผู้ที่เดินทางจะต้องมีวีซ่าของสหรัฐอเมริกา สนนราคาค่าบริการฉีดวัคซีน พร้อมค่าโรงแรมที่พักและอาหารเช้า ค่ารถสปรินเตอร์พร้อมคนขับท้องถิ่น ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว เริ่มต้นที่ 2 คน คนละ 175,000 บาท หากมี 8-10 คน ตกคนละ 76,000 บาท ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และค่ากักตัว ASQ ในไทยขากลับ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เฟซบุ๊ก “เถกิง สมทรัพย์” ของนายเถกิง สมทรัพย์ กรรมการบริษัท อะราวด์เดอะเวิลด์ จำกัด เจ้าของบริษัทนำเที่ยว อะราวด์เดอะเวิลด์ โพสต์ข้อความระบุว่า “มีผู้ถามเข้ามาครับว่า โปรแกรมทัวร์ไปฉีดวัคซีนที่อเมริกาน่าสนใจไหม? ผมดูโปรแกรมทัวร์แล้วมีเรื่องต้องคิด ดังนี้ครับ
- สามสี่วันแรกคนไปต้องเสี่ยงติดเชื้ออยู่หลายวันก่อนจะได้รับวัคซีน
- หลังรับวัคซีนแล้ว 3-4 วัน ก็ยังจะไม่มีภูมิคุ้มกัน
- ดังนั้น ผู้เดินทางจะเสี่ยงกับการติดเชื้อหรือไม่
- ในระยะนี้คนอเมริกันเองก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนครบ และยังมีการแพร่เชื้อกันอยู่
- ช่วงนี้เริ่มฤดูใบไม้ผลิ ต่อด้วยฤดูร้อนคนจะเริ่มออกจากบ้านมากขึ้นตามสถานที่ท่องเที่ยวจะแออัด คนไทยที่ไปโดยยังไม่มีภูมิคุ้มกัน จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไหม?
- ก่อนและหลังวันฉีดยา มีโปรแกรมท่องเที่ยวกันเต็มที่ทั้งในซานฟรานซิสโกและลอสแอนเจลีส ถ้าเรายังไม่มีภูมิคุ้มกัน เราจะเที่ยวสนุกไหมในสภาพแบบนั้น
- ถ้าเราจะรอจนกระทั่งคนอเมริกันฉีดกันครบถ้วนก็ต้องรออีกหลายเดือน ซึ่งเราน่าจะฉีดวัคซีนที่เมืองไทยกันแล้ว
- และข่าวล่าสุดคือ วัคซีน แอสตร้าเซเนก้า มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อมากกว่า 96% เพียงแค่ฉีดเข็มแรก
- ผมว่าเราฉีดกันก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวให้สนุก”
ข้อมูลอ้างอิง

ที่มา/เรียบเรียง/เผยแพร่
mgronline.com